จริงจังแค่ไหน ? กศน.กำแพงเพชร ติวเข้ม!…ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา
สำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร จัดโครงการ อบรม ประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในสถานศึกษา สังกัด สำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร แก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 33 คน ณ ห้องประชุมสำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร
วันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร นายพีระพงษ์ รุ่งเรืองศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดมหาสารคาม รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการ อบรม ประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในสถานศึกษา สังกัด สำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้ความรู้ และชี้แจงแนวทางแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 33 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมตระหนักถึงโทษพิษภัยของยาเสพติด มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อเอาชนะ ยาเสพติด และรับรู้นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ปัญหายาเสพติด ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการในการกำหนดนโยบายและสนับสนุนให้มีการดำเนินการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการอบรมให้ความร่วมมือ และมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อสู้เอาชนะยาเสพติดแก่นักศึกษาในสังกัด พัฒนารูปแบบการป้องกัน และมีการรายงานผลอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
นายพีระพงษ์กล่าวยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว กับยาเสพติดมากที่สุด ยาเสพติดนอกจากจะมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้เสพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อ ครอบครัว ชุมชน สังคม เศรษฐกิจ รวมทั้งความมั่นคงของประเทศ โดยจะเห็นได้จากข่าวสารการจับกุม อุบัติเหตุ อาชญากรรมที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด จากสื่อต่าง ๆ การดำเนินงานป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติด จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ทั้ง 3 ด้าน ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษา โดยต้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ เพราะกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพียงลำพังได้ ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้ นำความรู้ และแนวทางในการดำเนินการไปปรับใช้บูรณาการโครงการและกิจกรรมในสถานศึกษาให้เกิดความเหมาะสมทั้งกับกลุ่มเป้าหมาย และสอดคล้องกับสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยสามารถรายงานข้อมูลได้รวดเร็วและเป็นปัจจุบันต่อไป //ภาพ : ข่าว พิมพ์พจี พันธุ์ชัย