Page 51 - ThaiVersion
P. 51
“โดยการเชื่อมโยงแบรนด์สิงห์เข้ากับวัฒนธรรมไทย
กีฬา อาหารการกินและศิลปะ สัญลักษณ์สิงห์กลายเป็น
สัญลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก”
ประจวบ ภิรมย์ภักดี
ชื่อของสิงห์ได้เป็นที่คุ้นเคยในฐานะเบียร์ที่เป็นที่นิยมที่สุดในราชอาณาจักร เป็นเวลากว่า 80 ปีตั้งแต่การกลั่น
ครั้งแรก จนถึงปัจจุบัน เบียร์สิงห์ได้ครองใจนักดื่มชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติและได้ครองตลาดมา
หลายทศวรรษเหนือคู่แข่งอื่นๆ นอกจากนี้ เป็นเวลารุ่นสู่รุ่นที่เบียร์สิงห์ได้ชูโรงความเป็นไทยในการโฆษณา
และเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านการกีฬาของประเทศไทยอีกด้วย
เบียร์สิงห์ก่อตั้งโดยพระยาภิรมย์ภักดี ผู้เริ่มก่อตั้งโรงงานเบียร์ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำาเจ้าพระยาในปี 1933 เพื่อผลิต
เบียร์ที่มีคุณภาพดีที่สุด พระยาภิรมย์ภักดีได้เดินทางไปที่เยอรมันและยุโรปเพื่อเรียนรู้พื้นฐานการผลิตเบียร์
และท่านยังได้บริหารบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1950 ซึ่งบุตรชายของท่าน คุณวิทย์
และคุณประจวบได้ขึ้นมาดำารงตำาแหน่งผู้บริหารแทน
คุณวิทย์ซึ่งทำางานร่วมกับผู้เป็นพ่อในกิจการเดินเรือได้ดูแลด้านการเงินและการขาย ในขณะที่คุณประจวบ
ผู้ซึ่งมากไปด้วยประสบการณ์ได้เข้ามาสานต่อในด้านบริหารธุรกิจ
ภายหลังจากจบการศึกษาที่ฝรั่งเศสและเยอรมัน คุณประจวบได้เข้ามาช่วยผู้เป็นพ่อที่บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่
และได้ทำางานร่วมกับบริวมาสเตอร์ชาวเยอรมันในการพัฒนาเบียร์สิงห์ให้มีรสชาติที่ยอดเยี่ยม ท่านยังได้ชื่อ
ว่าเป็นบริวมาสเตอร์คนแรกของเมืองไทย ในปี 1939 บริษัทได้รับประทานอนุญาตจากพระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ในการจัดตั้งโรงผลิตเบียร์ซึ่งถือเป็นโรงผลิตเบียร์แห่งแรกของประเทศไทย
ที่ได้รับเกียรติเช่นนี้
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทได้ประสบภาวะหนี้สินมากกว่า 1 ล้านบาท คุณประจวบและคุณวิทย์
ได้ออกมาตรการที่จะล้างหนี้และชำาระเงินคือแค่เจ้าหนี้ทั้งสิ้นภายในเวลา 5 ปี แต่ในที่สุด ท่านทั้งสอง
สามารถล้างหนี้ทั้งหมดโดยใช้เวลาเพียงแค่ 18 เดือนซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้ผู้เป็นพ่อเห็นว่าทั้งสองสามารถ
ทำางานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายได้ พระยาภิรมย์ภักดีได้เสียชีวิตลงในปี 1950 ภายหลังจากนั้น บุตร
ชายคนสุดท้อง จำานงค์ได้เข้ามาร่วมดูแลธุรกิจและได้มาดูแลงานด้านบัญชีต่อจากคุณวิทย์ จากปี 1970
เป็นต้นมา คุณประจวบได้เริ่มขยายธุรกิจโดยการจ้างพนักงานมากขึ้นและการสร้างโรงผลิตใหม่ในปทุมธานี
เชียงใหม่และขอนแก่น