Page 30 - ThaiVersion
P. 30
สัตว์ และการสร้างถนนและทางเดิน
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้รับการสนับสนุนให้รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ เพื่อที่จะได้รับเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยในอัตราที่เป็น
ของกลุ่ม มีตลาดการผลิตร่วมกัน การได้รับเงินกู้ยืม (ถ้าหากมีความจำาเป็น) การสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ผู้เจ็บป่วย
และบุคคลด้อยโอกาสในสังคม และเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เยาวชน ผลกระทบของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่
ได้ถูกเผยแพร่ขยายออกไป ทำาให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยสนใจที่จะเรียนรู้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ สำานักพระราชวัง
จึงได้นำาความรู้เหล่านี้เผยแผ่ต่อไปยังคณะผู้แทนนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักการทูตและผู้ทรงเกียรติอื่น ๆ จาก
สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลา เลโซโท อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ
ภูฏาน ชิลี เยอรมนีอิสราเอลและอินโดนีเซีย
ขณะที่บางคนอาจเห็นว่า หลักเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำาไปใช้ได้เฉพาะในชนบทและ ภาคเกษตรกรรม แต่ในความ
เป็นจริงแล้ว หลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่สามารถนำาไปประยุกต์ใช้ในลักษณะการทำางานทุกด้านของชีวิต
ตั้งแต่การจัดการงบประมาณที่ใช้ในครัวเรือน จนถึงการจัดระเบียบกิจการด้านการเงินขององค์กรขนาดใหญ่ หลักการ
นี้ เน้นหลักทางสายกลางในการใช้ชีวิต สนับสนุนให้พลเมืองอยู่อาศัยได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ สามเสาหลักของ
ปรัชญานี้ ได้แก่ การรู้จักประมาณตน ความสมเหตุสมผล และภูมิคุ้มกันตนเอง ในขณะที่หลักการนี้สามารถนำามาใช้ได้
ในทุกระดับของสังคม แต่หลักการนี้ต้องเริ่มมาจากปัจเจกบุคคล ขณะที่พวกเขากำาลังถูกรุมเร้าด้วยความยากลำาบากที่
ต้องเผชิญในชีวิตประจำาวัน ชาวไทยจำานวนมากขึ้นมีการตระหนักถึงประโยชน์ของปรัชญาชีวิตนี้ ดังนั้น ภูมิปัญญาของ
พระราโชวาทกษัตริย์ ได้สั่นสะเทือนผ่านทุกระดับของสังคม สร้างความแข็งแกร่งเพื่อประเทศที่เปี่ยมด้วยพลัง
สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ทรงดำารงฐานะเป็นหุ้นส่วนที่สำาคัญในโครงการหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
หลายโครงการ แต่เมื่อเร็วๆนี้ พระองค์ทรงค้นพบหนทางของพระองค์เอง ในขณะที่เกษตรกรและครอบครัวเกษตรกร
ได้รับประโยชน์จากความคิดริเริ่มด้านเกษตรกรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ
ทรงตระหนักว่าผู้หญิงในครอบครัวเกษตรกร มีความท้าทายของตนเอง และทักษะในการตอบสนองต่อความท้าทาย
เหล่านี้ แทบทุกบ้านในชนบทม การถักทอผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายที่ชั้นล่างของบ้าน โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะทอผ้าที่
สวยงามสำาหรับใช้ในครอบครัว ช่วงเดือนระหว่างฤดูกาลปลูกข้าว พระองค์ทรงตระหนักว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะสร้าง
รายได้ ในตลาดที่ห่างไกลถ้าตลาดเหล่านั้นได้รับการพัฒนา และถ้าผู้หญิงเหล่านี้ได้รับการสอนทักษะการจัดการ
ธุรกิจที่จำาเป็น พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากโอกาสนี้
ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงตระหนักว่าความสนใจต่องานศิลปะและหัตถกรรมแบบดั้งเดิม
ได้เสื่อมถอยลง และช่างฝีมือผู้สูงอายุได้ลดบทบาทลงไป ทำาไมไม่ไห้ช่างฝีมือเหล่านี้สอนทักษะของพวกเขาแก่คน
อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์ศิลปะและสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเหล่านี้? ดังนั้น ในวันที่ 21 กรกฎาคม ปี 1976
สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ทรงจัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
(The Foundation for the Promotion of Supplementary Occupations and Related Techniques: SUPPORT) ขึ้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมการผลิตงานหัตถกรรมแก่ผู้หญิงเหล่านี้ และนำามาซึ่งการเสริมรายได้ให้กับครอบครัว
โครงการนี้เผยแผ่ขยายไปถึงผู้หญิงชนเผ่าชาวเขา คนพิการ คนยากจนและคนหนุ่มสาว ในการอนุรักษ์ศิลปะและ
หัตถกรรมนี้ ก่อให้เกิดงานศิลปะเครื่องเงินของชนเผ่าในภาคเหนือ ตะกร้าสานย่านลิเภาในภาคใต้ เครื่องถมเงินและ