Page 27 - ThaiVersion
P. 27
เงิน (silver barb) ปลาดุก (catfish) และแม้กระทั่งกบ ซึ่งได้กลายมาเป็นหลักของการผลิตในฟาร์ม พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแปรรูปแกลบ ซึ่งแกลบจะถูกอัดเป็นก้อนเพื่อใช้เป็นถ่าน โดยต้องการกำาจัดการตัดไม้ทำาลายป่า
ของชาวบ้านเพื่อวัตถุประสงค์ในการปรุงอาหาร ในขณะเดียวกัน พระองค์ทรงพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพจากน้ำามันปาล์ม
ที่ผลิตในท้องถิ่น ผลลัพธ์คือไบโอดีเซลที่ผลิตได้ถูกนำามาใช้เป็นสารเติมแต่งน้ำามันเชื้อเพลิงมาตรฐานในปัจจุบัน โครงการ
ทั้งหมดนี้ ได้รับการสนับสนุนจากทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ ในเขตพื้นที่ไร่นาที่อยู่ห่างไกลจากพระราชวัง พระองค์ทรง
พยายามที่จะใช้ปัจจัยการผลิตในท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาเก่าๆ เช่น การสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน หญ้าแฝก
(Vetiver Grass) เป็นพืชพื้นเมืองที่มีอายุยืนยาว และเจริญเติบโตเป็นกระจุกหนาแน่น ระบบรากลึกของหญ้าแฝก
เหมาะสำาหรับการลดการตกตะกอน และการรักษาเสถียรภาพของดินเพื่อเพิ่มผลผลิตและการอนุรักษ์แหล่งน้ำาอันมีค่า
นอกจากนี้ หญ้าแฝกยังสามารถปลูกเป็นผนังเพื่อดักตะกอนดินและช่วยรักษาหน้าดิน ซึ่งจะช่วยลดการชะล้างพังทลาย
ของดินได้อีกด้วย ด้วยผลการทรงงานของพระองค์ ชาวไร่ชาวนาสามารถปลูกหญ้าแฝกเพื่อยืดอายุการใช้งานของพื้นที่
เพาะปลูกของพวกเขาได้ด้วยตนเอง
การชลประทานถือเป็นความสนใจอีกอย่างหนึ่งของพระองค์ ภาพสัญลักษณ์ของกษัตริย์ที่ทรง พระราชดำาเนินพร้อม
แผนที่ในพระหัตถ์ เป็นคุณลักษณะที่คุ้นเคย ปรากฏอยู่บนสื่อสิ่งพิมพ์ต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์มาก่อน จนกระทั่งพระองค์ได้ทรงเปลี่ยนสาขาวิชาที่ทรงศึกษาเป็นสาขาวิชา
รัฐศาสตร์และกฎหมาย ณ มหาวิทยาลัยโลซาน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำาหรับบทบาทใหม่นั่นก็คือ การขึ้นครอง
ราชย์เป็นกษัตริย์ในปี 1946 พระองค์ทรงนำาความรู้ ที่ร่ำาเรียนมาตลอดพระชนม์ชีพ และความสนใจของพระองค์ มา
ปรับใช้ในการออกแบบวิธีการใหม่สำาหรับการทดน้ำาในทุ่งนาและการบำาบัดน้ำา ในปี 1993 พระองค์ทรงกลายมาเป็น
พระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวของโลก ที่ได้รับสิทธิบัตรในการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องเติมอากาศบำาบัดน้ำาเสีย
(Waste Water Aeration Machine) ที่มีชื่อเรียกว่า “กังหันชัยพัฒนา (Chai Pattana)”
ในปี 1971 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงริเริ่มโครงการฝนหลวง เพื่อนำาน้ำาเข้าสู่พื้นที่แห้งแล้ง และเก็บกักไว้ใน
อ่างเก็บน้ำา พระองค์ทรงสนับสนุนโครงการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (Pasak Jolasid Dam Project) ซึ่งเปิดใช้อย่าง
เป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ปี 1998 เขื่อนจะทำาหน้าที่ในการส่งน้ำาชลประทานให้กับเกษตรกรภาคกลาง
และระบายน้ำาที่ท่วมเป็นประจำาทุกปีไกลออกไปทางทิศใต้ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงออกแบบระบบ “ฝายชะลอน้ำา
(check-dams)” ขนาดเล็ก เพื่อควบคุมการไหลของน้ำาในช่วงฤดูมรสุม หลังจากที่ฝนตก น้ำาบาดาลจะถูกเก็บไว้ใน
อ่างเก็บน้ำาของฝายชะลอน้ำาเหล่านี้ และยังเก็บกักน้ำาไว้ใช้ในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ ฝายชะลอน้ำายังสามารถชะลอ
ความเร็วของกระแสน้ำาและกักตะกอน เพื่อป้องกันการไหลของกระแสน้ำาลงไปสู่อ่างเก็บน้ำาด้านล่าง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงใช้เทคนิคมากมาย เพื่อทำาให้มั่นใจได้ว่าน้ำาสะอาดที่นำาไปใช้ในกิจวัตรประจำาวันของ
ประชาชนนั้น ปราศจากสารปนเปื้อน ทะเลสาบถูกสร้างขึ้นมาโดยที่เศษตะกอนทั้งหลายจะถูกทำาให้ตกตะกอน และ
กำาจัดออกไป พระองค์ทรงสนับสนุนการสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำาที่ประกอบด้วยหญ้าแฝก (Vetiver) หญ้าเนเปียร์ (Napier
Grass) หญ้าซอยเซีย อัมมูรา (Zoysia Ammura) และ หญ้าขน (Brachiaria Mutica) ซึ่งทำาหน้าที่กรองน้ำาโดย
ธรรมชาติ นอกจากนี้ สวนป่าชายเลนเทียมจะดำาเนินการกรองทำาความสะอาดน้ำาที่ไหลผ่านโดยธรรมชาติเช่นเดียวกัน
การควบคุมน้ำาท่วม เป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ในความพยายามด้านการชลประทานของพระองค์ เขื่อนและคลองต่างๆ
ผันน้ำาและระบายน้ำาส่วนเกิน รวมทั้งวัชพืชและสิ่งกีดขวางต่างๆ ถูกกำาจัดออกไป ลำาคลองที่คดเคี้ยวมักจะถูกขยายออก