Page 12 - ThaiVersion
P. 12
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ส่งพระโอรส 29 พระองค์ไปศึกษาต่อยังเมืองหลวงในต่างประเทศซึ่งเจ้านายหลายพระองค์ได้
สร้างความประทับใจแก่บรรดาอาจารย์ผู้สอนในสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดและการวางตัวที่เหมาะสม หลังจากที่บรรดา
พระโอรสกลับมาจากการศึกษาต่อได้ดำารงตำาแหน่งสำาคัญหลายกระทรวงที่ได้มีการจัดตั้งขึ้น และที่สำาคัญไปกว่านั้น
คือการที่บรรดาเจ้านายเหล่านี้ได้มีมิตรสหายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นรูปแบบแรกของการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์
ที่ส่งผลดีต่อประเทศไทยในภายหลัง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ายังทรงโปรดปรานการท่องเที่ยวและได้เสด็จเยือนรัฐชวา ประเทศอินเดียและยุโรปซึ่ง
ทรงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศไทย ในครั้งที่พระองค์เสด็จเยือนยุโรปในปี 1897 และอีกครั้งในปี 1907 พระองค์
ได้พบกับผู้นำาที่มีอำานาจทัดเทียมกัน ซึ่งพระองค์ได้แสดงจุดยืนให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เจริญแล้วและไม่
ประสงค์การแทรกแซงใดๆจากต่างประเทศในฐานะพันธมิตรที่จะช่วยสร้างชาติ
ในช่วงศตวรรษที่ 20 ได้นำาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่การปกครองของประเทศไทย ในปี 1932 ท่ามกลางกระแส
ที่เรียกร้องให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการปกครองประเทศได้ก่อให้มีการปฏิวัติการปกครองประเทศทำาให้ระบอบรา
ชาธิปไตยที่ได้ปกครองมากว่า 700 ปีได้สิ้นสุดลง และได้เปิดทางแก่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็น
ประมุข นับตั้งแต่นั้นมา ประเทศไทยได้มีรัฐบาลทั้งที่มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้งเป็นผู้บริหารประเทศ
เศรษฐกิจ
ในช่วงสมัยอยุธยา ความมั่งคั่งของประเทศส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสงครามเป็นหลัก ทั้งนี้ความมั่งคั่งของประเทศไทย
ในยุคสมัยใหม่เริ่มต้นประมาณปี 1782 ผ่านเกษตรกรรม การผลิตและการค้า ถ้าไล่ดูจากแผนที่ ตั้งแต่เหนือจดใต้
ของแม่น้ำาเจ้าพระยาคือร่องรอยของการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ เริ่มต้นจากการทำาไร่เลื่อนลอยของบรรดา
ชาวเขาทางเหนือที่สร้างผลผลิตทางการเกษตรที่หลากหลาย ในบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางนั้นเป็นแหล่งเพราะปลูกข้าว
อันอุดมสมบูรณ์ สภาพภูมิอากาศและความชื้นที่เหมาะสมทำาให้ไทยเป็นแหล่งเพาะปลูกทางการเกษตรชั้นดีและ
เป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกข้าวชั้นนำาของโลก ถัดลงมาทางใต้ประมาณ 53 กิโลเมตรในบริเวณใกล้อ่าวไทยซึ่งเป็น
ที่ตั้งของกรุงเทพอันเจริญรุ่งเรือง เมืองหลวงของประเทศไทยได้เป็นตัวขับเคลื่อนสำาคัญต่อการพัฒนาประเทศไปสู่ยุค
การพัฒนาอุตสาหกรรม ในเขตชานเมืองของกรุงเทพได้กลายเป็นที่ตั้งของโรงงานซึ่งดึงดูดคนงานจากภาคชนบท
เข้ามาเป็นแรงงาน ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมนั้นได้มีส่วนในการสร้างรายได้หลักให้กับประเทศ ภาคการผลิตได้สร้าง
ผลผลิตมากมายไล่ตั้งแต่ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ไปจนถึงเสื้อผ้า ชิ้นส่วนยานยนต์จนถึงผลิตภัณฑ์เคมีทั้งเพื่อ
การบริโภคภายในประเทศและเพื่อการส่งออก โรงงานตามชานเมืองได้มีบทบาทในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก กรุงเทพได้กลายเป็นศูนย์กลางของประเทศและเป็นศูนย์กลาง
ของการเงินและการลงทุนต่างๆ
ภาคการเกษตรได้ครอบครองตลาดแรงงานถึง 41% ในทุกวันนี้ ตัวเลขดังกล่าวได้ใกล้เคียงกับตัวเลขการจ้างงานในภาค
บริการซึ่งส่วนใหญ่คือภาคการท่องเที่ยว ในอดีตที่ผ่านมา ข้าวคือพืชหลักของเกษตรกรรมไทยแต่หลังจากปี 1970
เป็นต้นมา ได้เริ่มนำาพืชผักผลไม้ชนิดใหม่ๆเข้ามาปลูกมากขึ้น ทำาให้ไทยได้กลายเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทาง
ด้านอาหารและโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้การเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมอาหารทำาให้ประเทศไทยได้เริ่มเปลี่ยนจาก