Page 11 - ThaiVersion
P. 11
พระรามาธิบดีที่ 1 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีราชธานีเดิมมายังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำา
เจ้าพระยาและได้วางยุทธศาสตร์ที่ตั้งที่ช่วยป้องกันข้าศึกพม่าที่ยังคงรุกรานราชธานีอย่างต่อเนื่องถึง 40 ปี
ในฝั่งซ้ายของราชธานี ได้โปรดให้สร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นและรอบเมืองยังล้อมรอบไปด้วยป้อมปราการทางน้ำา
จากแม่น้ำาเจ้าพระยาอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้สร้างกำาแพงเมืองขึ้นโดยใช้อิฐที่มาจากกรุงศรีอยุธยาที่ล่มสลาย แสดงให้
เห็นถึงพระปรีชาที่ช่วยประหยัดเงินท้องพระคลังและยังเป็นสัญลักษณ์ของการสืบต่อความรุ่งเรืองในอดีตอีกด้วย
ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ถูกปกครองโดยกษัตริย์หลากหลายพระองค์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ หนึ่งในนั้นที่
ทั่วโลกจดจำาเป็นอย่างดี คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ครองราชย์ปี 1851 - 1868) พระองค์ทรงเป็น
กษัตริย์ที่มีพระปรีชาอย่างยิ่งในการสร้างสันถวไมตรีกับชาวต่างชาติที่เข้ามาตั้งใจบ่อนทำาลายราชอาณาจักรไทย
หนึ่งในความสำาเร็จในช่วงรัชกาลของพระองค์คือการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้กับสังคมและวัฒนธรรม ก่อนที่พระองค์
จะครองราชย์ พระองค์ได้ทรงผนวชเป็นพระภิกษุนานถึง 27 ปี และ ทรงใช้เวลาในการฟื้นฟูคำาสั่งสอนทางพระพุทธ
ศาสนาเพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องและขจัดความเชื่อที่งมงาย ในหลากหลายแห่งที่ศาสนาได้เสื่อมสลายลงได้เปิด
โอกาสให้ประเทศนักล่าอาณานิคมเข้ามารุกรานในประเทศไทย ความแข็งแกร่งของความเชื่อทางศาสนาได้ช่วยพยุง
ประเทศให้รอดพ้นจากการรุกรานของชาติมหาอำานาจในเบื้องต้น
พระองค์ยังคงได้สร้างรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์และประชาชนใหม่ ในสมัยนั้นพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพ
สักการะเป็นอย่างสูงซึ่งห้ามให้ประชาชนสบตาหรือแม้แต่เอ่ยพระนามอย่างเด็ดขาด แต่พระองค์กลับใช้หลักการ
ปกครองอย่างเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทรงผนวชและได้ออกบิณฑบาตในทุกวัน ทำาให้พระองค์ได้ใกล้
ชิดกับฆราวาสและได้ทำาให้พระองค์เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำาวันของประชาชน แบบอย่างและแนวปฏิบัติที่พระองค์
ได้สร้างได้ถ่ายทอดไปยังพระโอรส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ครองราชย์ปี1868-1910) ที่ได้เสด็จ
ตรวจเยี่ยมโครงการสำาคัญของรัฐหลากหลายโครงการยังผลให้ภาพลักษณ์ของกษัตริย์มีความเป็นปุถุชนซึ่งไม่เคย
เกิดขึ้นมาก่อนในอดีต
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้วางรากฐานในการรักษาอธิปไตยของไทยให้คงอยู่ในศตวรรษ
ที่ 20 ในขณะที่เพื่อนบ้านอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล้วนตกอยู่ภายใต้อาณานิคมยุโรป ซึ่งมีเพียงประเทศไทย
เท่านั้นที่รอดพ้นจากชะตากรรมนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้ขยายการฑูตและสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับผู้นำาต่างประเทศ พระองค์ยังได้ดึงผู้
เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาการบริหารงานของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกกองทัพทหาร
และตำารวจ การสร้างสถาบันการเงิน การสร้างสาธาณูปโภคและการปรับปรุงรูปแบบการค้า พระปรีชาสามารถของ
พระองค์ในการจ้างชาวต่างชาติทำาให้มั่นใจได้ว่าการดำาเนินการต่างๆยังคงอยู่ภายใต้การบริหารงานของไทยและระบบ
ที่ใช้นั้นได้ดำาเนินการอย่างเหมาะสมและสามารถส่งต่อความเชี่ยวชาญต่างๆไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นคนไทย