Page 17 - หนูจะกินอะไรดี
P. 17
ไม่ติด“หวาน”
ลูกหลานสุขภาพดี
ข้อมูล: สำนักโภชนาการ
เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “หวาน” คนส่วนใหญ่มัก ซึ่งทำให้อ้วน เส้นเลือดอุดตันจากคอเลสเตอรอล
คิดถึงน้ำตาล น้ำตาลทำไมถึงทำให้ติดได้ ติดแล้ว ถ้าร่างกายได้รับน้ำตาลมากเป็นประจำ
มีผลต่อสุขภาพอย่างไร ต่อมในตับอ่อนจะทำงานหนักจนการผลิตฮอร์โมน
การกินหวานไม่ผิด...แต่กินอย่างไรให้พอดี อินซูลินผิดปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดโรคเบาหวาน
มีผลดีต่อสุขภาพ และไม่ติดหวาน ได้ง่ายตามมาด้วยไตวายและต้อกระจก
เชื่อหรือไม่!!! ว่าคนเราติดหวานได้ นักโภชนาการถือว่าน้ำตาลเป็น
ตั้งแต่ในท้องแม่!! สารที่ให้พลังงานชนิดหนึ่ง เรียกว่า พลังงานว่างเปล่า
คนเราสัมผัสความหวานได้จากตุ่มรับรสในลิ้น (Empty Energy) หมายถึง ให้พลังงาน
พัฒนาตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา ซึ่งทารก เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการ
จะได้รับรสหวานจากน้ำคร่ำ ซึ่งมีกลูโคส ฟรุกโตส เป็นอาหารที่ปราศจากกากใย ไม่มีวิตามิน แร่ธาตุ
กรดแลคติค กรดไขมัน และอื่นๆ เป็นส่วนประกอบ และโปรตีน ร่างกายมนุษย์ไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาล
นอกจากนี้ อาหารที่มีรสชาติต่างๆ ที่มารดากิน ก็ดำรงอยู่ได้ เพราะร่างกายสามารถรับน้ำตาล
ขณะตั้งครรภ์ส่งผ่านทางรกสู่น้ำคร่ำได้ด้วย จากอาหารอื่นๆ ทั่วไป อาทิ ข้าว แป้ง ผัก
การศึกษาในทารกดูดนมแม่และน้ำหวาน และผลไม้ ที่กินกันอยู่ทุกวันซึ่งมีสารประเภท
พบว่าทารกดูดน้ำหวานแรงและยาวนานกว่านมแม่ น้ำตาลรวมอยู่ในอาหารนั้นๆ อยู่แล้ว แค่นี้
ทั้งยังเพิ่มความต้องการขึ้นเรื่อยๆ ทารกติดหวานเสียแล้ว ก็พอเพียงต่อการบริโภคน้ำตาลในชีวิตประจำวัน
น้ำตาลให้พลังงานก็จริง ทำให้รู้สึกสดชื่นเร็ว ดังนั้น เพื่อไม่ให้ “ติดหวาน”
แต่ปริมาณน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณแม่ขณะตั้งครรภ์ไม่ควรกินหวาน
จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจากต่อม เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และต่อด้วยนมรสจืด
ในตับอ่อน เพื่อควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือด เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อสุขภาพที่ดี
ให้อยู่ในระดับปกติ โดยจะนำน้ำตาลไปเก็บ ของคนไทย
ในรูปของไกลโคเจน กรดไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอล
16 กรมอนามัย ส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี