Page 7 - ThaiVersion
P. 7

ได้มีคนถามท่านว่ามีแผนที่จะปรับปรุงเนื้อหาในหนังสือหรือไม่  ท่านได้ให้คำาตอบที่สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนว่า
            “ผมอยากที่จะโยนมันทิ้งลงถังขยะเสียด้วยซ้ำา”  และท่านได้อธิบายต่อว่า  “ผมไม่รู้ว่าคนไทยจริงๆคืออย่างไร  ดูจาก

            ผู้คนรอบตัวเหล่านี้ที่เรียกตัวเองว่าคนไทย  อะไรคือสิ่งที่หลอมรวมให้เป็นชาติพันธุ์ไทย  ในเมื่อพวกเขาเป็นส่วนผสม
            จากหลากหลายชาติพันธุ์ในโลกนี้”


            สิ่งที่ท่านพูดนั้นมีประเด็นอย่างยิ่ง  เมื่อมองจากคนไทยรอบตัวที่เดินผ่านไปมาตามท้องถนน  พวกเขาล้วนมีรูปร่าง

            หน้าตาและผิวสีที่ต่างกัน  คนไทยจึงเป็นชาติพันธุ์ที่มีความผสมผสานมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์  ซึ่งข้อสนับสนุนนี้สามารถ
            พบได้จากข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์


            ในอดีต  กลุ่มอิทธิพลหลักจะเป็นพวกยุโรปและอาเซียน    แต่ทุกวันนี้ตามทั่วไปเป็นปกติที่จะเห็นชายชาวไนจีเรียกับ

            ภรรยาชาวไทยเดินจูงมือลูกชายตัวน้อยในชุดนักเรียน หรือหญิงมุสลิมที่คลุมฮิญาบนั่งกินข้าวกับเพื่อนชาวพุทธ  จึงเป็น
            สิ่งที่ทำาให้นักท่องเที่ยวรับรู้ได้ถึงความเป็นมิตรและการต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อชาวต่างชาติ   หนึ่งในเหตุผลที่ทำาให้
            ประเทศไทยรุ่งเรืองคือการคงไว้ซึ่งความสงบและสันติภาพแม้ในยามที่เศรษฐกิจและสังคมของเหล่าประเทศเพื่อนบ้าน
            จะอยู่ในภาวะสงคราม  หรือแม้แต่ปิดประเทศก็ตาม  ประเทศไทยยังค่อนข้างเปิดรับกับความคิดใหม่ๆและเทคโนโลยี

            เนื่องด้วยการมีศาสนาและวัฒนธรรมที่หลากหลายนั่นเอง


            อีกหนึ่งข้อสนับสนุน  คือ  แนวความคิดของ  “ความเป็นไทย”  เมื่อให้นิยามความเป็นไทยในแบบสำารวจอย่างไม่เป็น
            ทางการ สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กล่าวถึงคือ ผู้คน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นมิตร ความสุภาพ รอยยิ้ม ความใจดี

            สงบ  และในลำาดับถัดมาพวกเขาจะนึกถึงลักษณะเชิงกายภาพของประเทศ  เช่น  อนุสาวรีย์  ชายหาด  ป่าไม้  อาหาร
            ภายใต้คำาจำากัดความว่า “ประเทศที่มีเสน่ห์ที่แตกต่างจากบ้านเมืองของฉันอย่างเห็นได้ชัด”


            แนวคิดของความเป็นไทยซึ่งยากต่อการอธิบายนั้นดูเหมือนว่าจะบรรยายถึงวิถีชีวิตของคนไทยที่ค่อนข้างผ่อนคลาย

            วัฒนธรรมไทยมีจุดเด่นในการคงไว้ซึ่งความสงบ  ไม่ว่าจะเผชิญกับความวุ่นวายประการใดก็ตาม  คนไทยจะยังคงไว้
            ซึ่งอารมณ์แห่งความสนุกสนาน     นอกจากนี้คนไทยยังมีน้ำาใจซึ่งเห็นได้ชัดเจนในระหว่างการร่วมรับประทานอาหาร
            ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขทำาให้ชาวต่างชาติเรียกเมืองไทยว่าเป็น “สยามเมืองยิ้ม”



            นอกจากนี้  ความมั่นใจและภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยได้แทรกซึมผ่านปฏิสัมพันธ์ทางสังคม  การทำางานและการ
            พักผ่อนซึ่งจะเห็นได้ว่าในภาษาไทย  ความหมายของคำาว่า  “งาน”  นั้นเป็นได้ทั้ง  “การทำางาน”  และ  “การร่วมงาน
            (สังสรรค์)”



            การก่อตัวของความเชื่อเหล่านี้มาจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ว่าวิวัฒนาการของชาวไทยคือการผสมผสานทาง
            ชาติพันธุ์ที่หลากหลาย  โดยย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคสำาริด  (ยุคทองแดง)  ที่มีอารยธรรมที่เฟื่องฟูดังปรากฎที่แหล่ง
            วัฒนธรรมบ้านเชียง  ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศซึ่งเป็นอารยธรรมในสมัยราว  1,495  ปีก่อน
            คริสต์กาล  ในสมัยนั้นได้มีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำาจากทองแดง  เครื่องประดับที่มีดีไซน์ที่ซับซ้อนรวมไปถึง

            ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีแดง นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงถึงการทำาการเกษตรอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม
            การสิ้นสุดของยุคสำาริดยังไม่เป็นที่ทราบอย่างแน่ชัด
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12