Page 5 - ThaiVersion
P. 5

ดินแดนในฝัน




            ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลายอันน่าอัศจรรย์ ไม่เฉพาะแต่เพียงภูมิประเทศ แต่ยังรวมไปถึงผู้คนอีก
            ด้วย ประเทศไทยมีอาณาเขตโดยรวมทั้งสิ้น 513,120 ตารางกิโลเมตร (198,120 ตารางไมล์) ซึ่งจัดอยู่ในประเทศ
            ที่ใหญ่เป็นอันดับที่  50  ของโลก  ใกล้เคียงกับประเทศสเปนและเล็กกว่ารัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกาเพียง
            เล็กน้อย ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับประเทศพม่า  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศกัมพูชา และ

            ประเทศมาเลเซีย และตั้งอยู่ใจกลางของทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้


            ภูมิประเทศที่หลากหลายนำามาซึ่งสถานที่อันสวยงามมากมายที่เอื้ออำานวยให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรตามความชอบ
            ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนหรือกิจกรรมผจญภัยอย่างเช่น  ปีนหน้าผา  หรือการพายเรือ  ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากใน

            ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ ได้แก่ การเดินป่าในภูเขาทางภาคเหนือ การตั้งแคมป์ในป่า การพักผ่อน
            แบบโฮมสเตย์ในหมู่บ้านกลางทุ่งนา  และการดำาน้ำาชมทัศนียภาพใต้น้ำาในจุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในทะเลทาง
            ภาคใต้    นอกจากนี้ยังมีกีฬาทางน้ำา  อาหารรสเลิศและรีสอร์ทหรูหลายแห่งบนชายหาดที่ทอดยาวกว่า  3,219  กม.
            ตามแนวอ่าวไทยและทะเลอันดามันทางภาคตะวันออกของอ่าวเบงกอล



            สภาพภูมิอากาศอยู่ในเขตร้อนชื้นกับอุณหภูมิที่มีตั้งแต่เย็นสบาย ร้อนจัดและร้อนชื้น แต่ล้วนเป็นที่ชื่นชอบของบรรดา
            นักอาบแดดทั่วโลก  ฝนที่ตกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายนจะตกลงมาเป็นช่วงๆ พร้อมกับลมพายุในบางครั้ง
            ซึ่งเม็ดฝนที่โปรยมาได้มอบความเขียวขจีและความชุ่มชื้นให้กับทัศนียภาพ  ในฤดูที่อากาศเย็นสบายจะเป็นช่วงที่ได้รับ

            ความนิยมที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวซึ่งจะมีระยะเวลาตั้งแต่เดือนธันวามคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์  เป็นที่น่าสังเกตว่า
            ถ้าเทียบกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงนั้น ประเทศไทยมักไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น ไต้ฝุ่น
            หรือแผ่นดินไหว  ไม่นับรวมคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นในปี 2004 ซึ่งถือเป็นประวัติการณ์ในประวัติศาสตร์ของประเทศ



            ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สวยงามนี้ได้เป็นที่เลื่องลือ  ดังปรากฎในคำากล่าวของบรรดาผู้มาเยือนในศตวรรษที่
            19  ดังเช่น แมกซ์เวล ซอมเมอร์วิลล์ ที่ได้บรรยายในระหว่างการเดินทางจากต้นน้ำาสู่กรุงเทพในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งเขา
            ได้ค้นพบความน่าตื่นตาตื่นใจของสองฝั่งแม่น้ำาที่ปกคลุมไปด้วยป่าอันอุดุมสมบูรณ์



            “ในขณะที่เรากำาลังถึงจุดหมาย  สองข้างทางเต็มไปด้วยฝูงลิงทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ห้อยโหนอยู่บนต้นไม้  บางส่วนได้ลงมา
            เล่นน้ำาตามรากต้นไม้ที่งอกบริเวณแนวชายฝั่งอย่างเงียบสงบและเป็นธรรมชาติเสมือนหนึ่งมีมนุษย์จิ๋วมาวิ่งเล่นอยู่รอบ
            ตัว นกแก้วซึ่งถ้าเป็นในอเมริกาได้อยู่เพียงแต่ในกรง แต่ในที่นี้เราได้เห็นมันบินไปมาทั่วทั้งบริเวณสองฝากฝั่งแม่น้ำา”



            ในขณะที่พื้นที่ทางธรรมชาติบางส่วนได้ถูกถางเพื่อทำาการเกษตรและปลูกสร้างที่อยู่อาศัย  ข้อมูลขององค์การอาหาร
            และการเกษตรแห่งสหประชาชาติ  (FAO)  ในปี  2011  พบว่า  ยังมีพื้นที่ถึง  37.1%  ของประเทศหรือประมาณ
            18,972,000 เฮกเตอร์ (189,720 ตร.กม.) ยังคงปกคลุมไปด้วยป่าไม้ซึ่งรวมถึงป่าเชิงพาณิชย์ที่มีพื้นที่ถึง  3,986,000
            เฮกเตอร์ (39,860 ตร.กม.)  ซึ่งในพื้นที่เหล่านี้ 880 ตร.กม. ได้ถูกจัดสรรให้เป็นอุทยานแห่งชาติจำานวน 127 แห่ง  (22 แห่ง

            คืออุทยานทางทะเล)        ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและนกหลากหลายสายพันธุ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาตั้งแคมป์
            และเดินป่า
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10