Page 212 - การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 3 สค32032 (ม.ปลาย)
P. 212
6. พื้นที่เสียงภัยดินโคลนถล่ม พื้นที่ที่มีโอกาสเกิดภัยโคลนดินถล่ม ได้แก่
6.1 พื้นที่ตามลาดเชิงเขาหรือบริเวณที่ลุ่มใกล้เชิงเขาที่มีการพังทลายของดินสูง
6.2 พื้นที่เป็นภูเขาสูงชันหรือหน้าผาที่เป็นหินผุพังง่ายและมีชั้นดินหนาจากการผุ
กร่อนของหิน
6.3 พื้นที่ที่เป็นทางลาดชัน เช่น บริเวณถนนที่ตัดผ่านหุบเขา บริเวณล้าห้วย
บริเวณเหมืองใต้ดินและเหมืองบนดิน
6.4 บริเวณที่ดินลาดชันมากและมีหินก้อนใหญ่ฝังอยู่ในดิน โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้
ทางน้้า เช่น ห้วย คลอง แม่น้้า
6.5 ที่ลาดเชิงเขาที่มีการขุดหรือถม
6.6 สภาพพื้นที่ต้นน้้าล้าธารที่มีการท้าลายป่าไม้สูง ชั้นดินขาดรากไม้ยึดเหนี่ยว
6.6 เป็นพื้นที่ที่เคยเกิดดินถล่มมาก่อน
7. วิธีการป้องกันและลดผลกระทบดินโคลนถล่ม การป้องกันการเกิดดินโคลนถล่มที่
เกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินั้น นอกจากจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงแล้ว คนใน
ชุมชนควรร่วมมือกันในการก้าหนดแนวทางการป้องกันภัยพิบัติการเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง
สรุปได้ดังนี้
7.1 ร่วมกันดูแล รักษา และป้องกันไม่ให้มีการตัดต้นไม้ท้าลายป่าในพื้นที่ป่าและ
บริเวณล้าห้วยให้มีความอุดมสมบูรณ์
7.2 คนในชุมชนควรร่วมกันจัดสรรเขตพื้นที่ป่าเป็นเขตป่าอนุรักษ์และเขตป่าใช้
ประโยชน์ออกจากกัน เพื่อป้องกันการโค่นล้มต้นไม้
7.3 ส้ารวจบริเวณพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดดินโคลนถล่ม
7.4 ควรท้าลายหรือขนย้ายเศษกิ่งไม้ ต้นไม้แห้งที่ถูกพัดมาสะสมขวางทางน้้า
7.5 ควรท้าการอพยพประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนกีดขวางทางน้้าขึ้นไปอยู่บนเนินหรือ
ที่สูงชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเตือนภัยว่าจะเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน
7.6 จัดตั้งกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังและแจ้งเหตุแผ่นดินถล่ม
7.7 จัดท้าแผนการอพยพแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัย และควรฝึกซ้อม
ตามแผนการอพยพในโอกาสที่เสี่ยงจะเกิดแผ่นดินถล่ม
ชุดวิชา การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 3 - 202