Page 15 - ม้าก้านกล้วย
P. 15

วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์   21  โลกทัศน์ในรวมบทกวีนิพนธ์ ม้าก้านกล้วย...
             ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 ก.ค. - ธ.ค. 2551                กีรติกานต์  บุญฤทธิ์และคณะ
             โหยหาความสุขในอดีตเมื่อประสบสิ่งตรงกันข้ามในประสบการณ์ปัจจุบัน ดังที่ปรากฏ
             เด่นชัดใน “ภาคนำ : ม้าก้านกล้วย” ในที่นี้ผู้วิจัยขอยกบท “ม้าก้านกล้วย 1” (26-28)
             มาวิเคราะห์
                        ไพวรินทร์นำขนบนิราศมาใช้เพื่อพรรณนาความทุกข์โศกของ
             ลูกชายชาวชนบทที่ต้องเดินทางจากถิ่นเพื่อหางานทำและค้นหาความหมายของชีวิต
             กำลังใจจากพ่ออย่างเต็มเปี่ยม  เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลูกชายมีความมุ่งมั่นในการ
             “มุ่งสู่เส้นขอบฟ้าหาความฝัน” ในช่วงต่อมากวีได้บรรยายการเดินทางที่ต้องฟันฝ่า
             อุปสรรคว่า

                        ม้าก้านกล้วยโจนทะยานจากบ้านทุ่ง  พาข้ามุ่งสู่พนาพฤกษาไสว
                 ด้นดงหนามระกำเกี่ยวลัดเลี้ยวไป      ข้ามบึงหนองคลองใสไต่พนม
                 มุ่งสู่เส้นขอบฟ้าหาความฝัน      ล่วงร้อยวันพันคืนที่ขื่นขม
                 เคยรากไม้ต่างหมอนนอนระทม        เคยฟ้าห่มต่างผวยด้วยระกำ
                 ยังแต่ม้าเพื่อนยากในยามเปลี่ยว   เป็นเครื่องเหนี่ยวหัวใจไม่ถลำ
                 จนลุเมืองแห่งอารยธรรม           หนึ่งวิมานในม่านดำแห่งหมอกควัน

                        กวีได้บรรยายการเดินทางในป่าดงเพื่อมุ่งสู่เมือง  แสดงความ
             ยากลำบากโดยใช้คำทำเนียบกวี  เช่น  “พนาพฤกษาไสว”  และยังใช้สำนวนที่อิง
             กับสำนวนในวรรณคดีโบราณ  ดังที่  “เคยรากไม้ต่างหมอนนอนระทม  เคยฟ้าห่ม
             ต่างผวยด้วยระกำ” เทียบได้กับเสภาขุนช้างขุนแผน (ตอนที่ 18) ที่ว่า “หยิบราก
             ไม้มาวางลงต่างหมอน แลดูขอนจะหนุนก็ใจหาย” เทียบเคียงกับความทุกข์ของกวี
             เมื่อต้องร่อนเร่ไปอย่างโดดเดี่ยว  จนเข้ามาเผชิญกับเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเป็น
             วิมานชั้นฟ้า แต่กลับปิดกั้นด้วย “ม่านดำแห่งหมอกควัน” จนดูมืดหม่น กวีเกิดความ
             รู้สึกแปลกแยก อ้างว้าง และเกิดอารมณ์ถวิลหาบ้านเกิดมากยิ่งขึ้น  ดังคำพรรณนา
             ที่ว่า

                       มีโคมไฟต่างดาวดารดาษ            มีเถาวัลย์พันพาดดูยุ่งเหยิง
                  มีหรีดหริ่งเรไรใจกระเจิง                  ด้วยเสียงเมืองบันเทิงบรรเทาทุกข์
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20